โครงสร้างอะตอม

โครงสร้างอะตอมเป็นลักษณะทางกายภาพและระบบองค์ประกอบของอะตอมที่มีอยู่ในสภาวะที่มีความเสถียรภาพ โดยโครงสร้างอะตอมประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญต่อคุณสมบัติและพฤติกรรมของอะตอมนั้น ๆ

อะตอมคือ ส่วนประกอบสำคัญที่เล็กที่สุด

อะตอมคือ หน่วยเล็กที่สุดของสารที่ยังคงความเป็นสารตามลักษณะเดิมได้โดยไม่เสื่อมสลายเปลี่ยนแปลง อะตอมประกอบด้วยส่วนประกอบสำคัญคือนิวเคลียส (ส่วนกลางของอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน) โดยอะตอมเป็นส่วนประกอบของวัตถุทั้งหมดที่เราเห็นได้ในสามมิติ โดยลักษณะเด่นของอะตอมคือมีสมดุลของประจุไฟฟ้า เมื่อนิวเคลียสและนิวตรอนมีจำนวนเท่ากันในอะตอมจะมีประจุไฟฟ้าเป็นศูนย์ แต่เมื่อมีจำนวนนิวเคลียสและนิวตรอนที่แตกต่างกันอะตอมจะมีประจุไฟฟ้าเป็นบวกหรือลบตามจำนวนนิวเคลียสเพิ่มขึ้นหรือลดลง

มวลของอะตอมส่วนใหญ่อยู่ที่ นิวตรอนและนิวเคลียสในอะตอม โดยมวลของนิวตรอนมีค่าเล็กมากเมื่อเทียบกับมวลของนิวเคลียส สำหรับนิวตรอนที่อยู่ในกรอบอิเล็กตรอนนั้นมีมวลประมาณ 1/1836 ของมวลของนิวเคลียส ดังนั้นเราสามารถพูดได้ว่ามวลของอะตอมส่วนใหญ่อยู่ที่นิวเคลียส

 

โครงสร้างอะตอมของธาตุ แบ่งออกเป็นสองส่วน

โครงสร้างอะตอมของธาตุ เป็นการบ่งบอกถึงวิธีที่อะตอมประกอบกันเพื่อสร้างธาตุนั้น ๆ โดย โครงสร้างอะตอมของธาตุ สามารถแบ่งได้เป็นส่วนประกอบหลัก 2 ส่วน คือ

  • นิวเคลียส (Nucleus): เป็นส่วนกลางของอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน โปรตอนมีประจุบวกและอยู่ภายในนิวเคลียส ส่วนนิวตรอนมีประจุลบและเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสในเขตอิเล็กตรอน (Electron Shell)
  • เคลื่อนที่รอบนิวเคลียส (Electron Shell): เป็นเขตที่นิวตรอนอยู่รอบนิวเคลียส นิวตรอนจะเคลื่อนที่ในเขตที่กำหนดโดยระดับพลังงานหรือชั้นอิเล็กตรอน โดยแต่ละชั้นสามารถรองรับจำนวนนิวตรอนที่แน่นอนได้ โดยนิวเคลียสและชั้นอิเล็กตรอนที่มีจำนวนประจุเท่ากันจะสร้างธาตุที่มีสมดุลไฟฟ้า

โครงสร้างอะตอมของธาตุแต่ละชนิดจะแตกต่างกันตามจำนวนของโปรตอนและนิวตรอน ทำให้ธาตุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติทางเคมีและพลังงานที่แตกต่างกันไป

 

สถานะของธาตุ โครงสร้างอะตอมและตารางธาตุ

โครงสร้างอะตอมเป็นลักษณะทางกายภาพและระบบองค์ประกอบของอะตอมที่มีอยู่ในสภาวะที่มีความเสถียรภาพ โดยโครงสร้างอะตอมประกอบด้วยส่วนประกอบที่สำคัญต่อคุณสมบัติและพฤติกรรมของอะตอมนั้น ๆ

โครงสร้างอะตอมประกอบด้วยส่วนประกอบหลัก 3 ส่วน ได้แก่

  • นิวเคลียส (Nucleus): เป็นส่วนกลางของอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอนและนิวตรอน โปรตอนมีประจุบวก และนิวตรอนไม่มีประจุ
  • อิเล็กตรอน (Electrons): เป็นส่วนที่เคลื่อนที่รอบนิวเคลียส มีประจุลบ จำนวนนิวตรอนขึ้นกับธาตุของอะตอม
  • โปรตอน (Protons): เป็นส่วนที่อยู่ในนิวเคลียส มีประจุบวก จำนวนโปรตอนขึ้นกับธาตุของอะตอม

ตารางธาตุ (Periodic Table) เป็นการจัดเรียงธาตุตามลำดับของจำนวนโปรตอนในนิวเคลียส โดยในตารางธาตุจะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับธาตุที่ต้องการ เช่น ชื่อธาตุ, สัญลักษณ์ธาตุ, จำนวนอะตอม, และสถานะของธาตุในสภาวะต่าง ๆ เช่น สภาวะเหลวหรือก๊าซ

โครงสร้างอะตอมและตารางธาตุ ตารางธาตุยังแบ่งธาตุออกเป็นหมวดหมู่ตามลักษณะการเรียงลำดับและคุณสมบัติของธาตุ เช่น โลหะ, ไม่เป็นโลหะ, ก๊าซเจือปน ซึ่งช่วยให้สามารถระบุลักษณะทางเคมีและคุณสมบัติอื่น ๆ ของธาตุแต่ละชนิดได้

 

โครงสร้างอะตอมมีกี่แบบ แบ่งเป็นอะไรบ้าง

โครงสร้างอะตอมมีกี่แบบ แบ่งออกเป็นแบบหลักๆ ดังนี้

  • โมเดลโรงสร้างแบบโมเดลโทมสัน (Plum Pudding Model): โมเดลนี้ถูกคิดค้นโดย J. โทมสันในปี ค.ศ. 1904 โดยใช้แนวคิดว่าอะตอมเป็นโครงสร้างอะตอมที่มีจำนวนนิวตรอนกระจายไปทั่วโดยไม่มีโครงสร้างเฉพาะที่ นิวตรอนถูกสมมติว่าเป็นลักษณะของความเป็นกระจุกเล็ก ๆ ที่กระจายอยู่ในโปรตอนที่มีประจุบวก
  • โมเดลโรงสร้างแบบรัฐวิสาหกิจ (Rutherford Model): โมเดลนี้ถูกคิดค้นโดยเอร์เนสต์ รัฐเฟิร์ดในปี ค.ศ. 1911 โดยใช้การทดลองการกระจายลูกโม่งอะลฟา เขาค้นพบว่านิวตรอนเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสที่มีขนาดเล็กกว่าและมีประจุลบ และโปรตอนอยู่ที่กลางที่มีประจุบวก ด้วยการสร้างโมเดลนี้ รัฐเฟิร์ดได้กล่าวคำแนะนำว่าโครงสร้างอะตอมมีนิวตรอนเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างที่มีขนาดเล็กและประจุลบเคลื่อนที่รอบนิวเคลียสที่มีขนาดใหญ่และประจุบวก
  • โมเดลโรงสร้างแบบโบรอน (Bohr Model): โมเดลนี้ถูกคิดค้นโดยนีลส์ โบรอนในปี ค.ศ. 1913 โดยตั้งข้อสมมติว่านิวตรอนจะอยู่ในชั้นอิเล็กตรอนที่มีพลังงานแบ่งชั้น (Energy Levels) เมื่อนิวตรอนเคลื่อนที่รอบนิวเคลียส จะเกิดการสลับระหว่างสถานะพลังงานที่แตกต่างกันโดยการรับหรือส่งพลังงานในรูปแบบของความถี่

โมเดลโรงสร้างแบบโบรอนนำไปสู่ความเข้าใจในสมบัติและพฤติกรรมของธาตุและสามารถใช้ในการอธิบายการเกิดและพฤติกรรมของแสงและกฎของซับซ้อนอื่น ๆ ในระดับอะตอม

 

การศึกษาและการทดลองได้มาซึ่ง หลักฐานโครงสร้างอะตอม

หลักฐานโครงสร้างอะตอม ที่ยืนยันโครงสร้างอะตอมมาจากการศึกษาและการทดลองในสมัยก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงผลการทดลองที่เกี่ยวกับการกระทำสารที่เปลี่ยนแปลงแบ่งแยกอะตอมเป็นส่วนประกอบย่อยๆ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในการรู้จักโครงสร้างอะตอม

หลักฐานที่สำคัญได้แก่

  • การทดลองระเบิดอะตอม: การทดลองระเบิดอะตอมโดยใช้เครื่องจู่โจมเพื่อแยกส่วนประกอบของอะตอม เช่น การระเบิดอะตอมทองคำ (Gold Foil Experiment) ที่ดำเนินโดยเรเธอร์ฟอร์ด รัฐบาล และแคลิน นอสในปี ค.ศ. 1911 เป็นการพิสูจน์ถึงโครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยนิวเคลียสที่อยู่ในส่วนกลางและนิวตรอนที่เคลื่อนที่รอบๆ นิวเคลียสนั้นเอง
  • การทดลองทางรังสี: การใช้รังสีในการศึกษาโครงสร้างอะตอม อาทิเช่น การใช้รังสีเอกซ์ (X-ray) ในการแสดงภาพของโครงสร้างอะตอม ผ่านการเล่นระยะระหว่างนิวเคลียสและนิวตรอน
  • การวิเคราะห์และการสังเคราะห์สาร: การใช้เทคนิคต่างๆ เช่นการวิเคราะห์สแปกโตรน (Spectroscopy) เพื่อศึกษาและวิเคราะห์การเคลื่อนที่และพฤติกรรมของอะตอม และการสังเคราะห์สารที่เป็นพื้นฐานสำหรับการทำนวัตกรรมในวงการเคมี
  • การใช้เทคนิคคอมพิวเตอร์: การใช้การคำนวณแบบควอนตัม (Quantum computation) เพื่อศึกษาและจำลองโครงสร้างอะตอมและการกระทำของอะตอม
  • การศึกษาและการวิจัยทางตรรกศาสตร์: การใช้โมเดลทางควอนตัมเพื่อศึกษาโครงสร้างอะตอมและพฤติกรรมของอะตอม และการสร้างทฤษฎีที่อธิบายคุณสมบัติและพฤติกรรมของอะตอม

การรวมกันของหลักฐานเหล่านี้และผลการศึกษาอื่นๆ ช่วยให้เรามีความเข้าใจในโครงสร้างอะตอมและการกระทำของอะตอมในสารทั่วไปได้มากขึ้น หรือใน สรุป โครงสร้างอะตอม มหา ลัย หรือ โครงสร้างอะตอม แบบฝึกหัด

 

สามารถอัพเดตเรื่องราววิทยาศาสตร์อื่นๆที่น่าสนใจได้เพิ่มเติม

โครงสร้างธาตุ องค์ประกอบของสารเคมี

การสำรวจทางวิทยาศาสตร์ ความรู้ในเชิงวิทยาศาสตร์

เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์

วิทยาศาสตร์อาหาร การเข้าใจเกี่ยวกับอาหารให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น


สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ dafastlane.net